ดิ แอธเลติเตียนก สื่อชื่อก้อง กำหนด

ดิ แอธเลติเตียนก สื่อชื่อก้อง กำหนด สำหรับเพื่อการสัมมนาเมื่อวันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานั้น เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้บริหารระดับสูงของ แมนฯ ยูไนเต็ด โต้เถียงกับการที่จะให้ฤดู 2019-20 เป็นโมฆะ โดยเขาคิดว่าถึงแม้ว่าจะควรต้องลากไปถึงกันยายน หรือตุลาคม มันก็จะต้องเตะให้จบสถานที่เดียว ไพ่ 1 สํารับ
เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เห็นพ้องกับการที่จะให้ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดู 2019-20 ควรจะเป็นโมฆะ รวมทั้งปรารถนาให้มันเตะกันจนถึงจบฤดูกาล ไม่ใช่แค่วินิจฉัยตามชั้นตารางคะแนนในตอนนี้ ตามการเปิดเผยของ ดิ แอธเลว่ากล่าวก สื่อกีฬาที่มีความน่านับถือสูงรายหนึ่ง

ปัญหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างมากของเชื้อวัววิด-19 ในหลายประเทศ ทำให้ลีกบอลของหลายประเทศถูกสั่งพักการประลองตามไปด้วย โดยของ พรีเมียร์ลีก ทีแรกๆถูกสั่งพักถึงวันที่ 3 เดือนเมษายนนี้เป็นขั้นต่ำ ในช่วงเวลาที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 เดือนมีนาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา มันมีการสัมมนาระหว่างกระดานบริหารของ พรีเมียร์ลีก กับผู้แทนจากทั้งยัง 20 กลุ่ม เพื่อปรึกษาขอคำแนะนำเกี่ยวกับข้อสรุปของฤดูกาลนี้ ก่อนจะมีการตกลงใจว่าจะมานะเตะกันจนถึงจบให้ได้ รวมทั้งเพิ่มช่วงเวลาพักไปเป็นจนกระทั่งวันที่ 30 เดือนเมษายนนี้เป็นขั้นต่ำ

ดังนี้ ดิ แอธเลติเตียนก กล่าวว่า วู้ดเวิร์ด โต้แย้งการที่จะให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ยังแจกแจงแบบมีเหตุผลอย่างมากด้วย โดยเขาคิดว่าแม้กระทั่งฤดูกาล 2019-20 ควรต้องลากยาวไปถึงกันยายน หรือตุลาคมนี้ มันก็จำต้องยอมทำอย่างงั้นเพื่อจะให้ฤดูกาลนี้จบแบบบริบูรณ์

ถึงแม้ว่าการวินิจฉัยให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะจะมีผลให้ หงส์แดง ซึ่งเป็นคู่พิพาทชั่วกัลปวสานของ แมนฯ ยูไนเต็ด อดได้แชมป์ลีก แต่ว่ามันก็จะส่งผลกระทบกับ "ภูติผีปีศาจแดง" เองด้วยเหมือนกัน ด้วยเหตุว่าในช่วงเวลานี้พวกเขาเป็นชั้น 5 และก็กำลังเริ่มจะมีลุ้นทำพื้นที่ติด 4 ขั้นแรกของตารางคะแนนเพื่อได้สิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงฤดูกาลหน้า โดยถึงแม้ว่าก่อนหน้าที่ผ่านมากลุ่มในชั้น 5 ของ พรีเมียร์ลีก จะมองได้โอกาสได้ฝ่าศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" ในฤดูกาลหน้า จากการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนตัดสิทธิ์จากการเล่นเกมถ้วยยุโรป 2 ฤดู ด้วยเหตุว่าความผิดพลาดฐานปลอมบัญชี แม้กระนั้นทาง "เรือใบสีฟ้า" ก็ขออุทธรณ์กับศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ไปแล้ว จนถึงทำให้ยังไม่เป็นที่แจ่มชัดว่ากลุ่มในชั้น 5 ของ พรีเมียร์ลีก จะได้สิทธิ์นั้นจริงๆรึเปล่า